Eatery

ชวนปักหมุด จุดเช็คอินใหม่ “Red Lobster” สาขา 2 THE EMSPHERE พร้อมคอนเซปต์ใหม่ “Lobster Café” แห่งแรกในไทย

ชวนปักหมุด จุดเช็คอินใหม่ “Red Lobster” สาขา 2 THE EMSPHERE

พร้อมคอนเซปต์ใหม่ “Lobster Café” แห่งแรกในไทย

เข้าสู่ช่วงปลายปีแบบนี้ เชื่อว่าหลายคนจะต้องเตรียมหาสถานที่เท่ ๆ คูล ๆ สำหรับปักหมุดสังสรรค์กัน ไม่ว่าจะกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนพิเศษ และถ้าโจทย์ของคุณคือร้านอาหารแคชชวลไดนิ่งในบรรยากาศสบาย ๆ ร้านเก๋ เดินทางสะดวก อาหารอร่อย ขอแนะนำให้แวะมาเช็คอินกันที่ “Red Lobster” (เร้ด ล็อบสเตอร์) สาขา 2 ที่ THE EMSPHERE ศูนย์การค้าใหม่ย่านสุขุมวิทที่มีเอกลักษณ์ในการใช้ชีวิต ทั้งแฟชั่น อาหาร ไลฟ์สไตล์ และความบันเทิงครบครัน

“Red Lobster” สาขาใหม่นี้ โดดเด่นด้วยเมนูล็อบสเตอร์และอาหารทะเลหลากหลาย ที่ยังคง ชูจุดยืนเรื่องคุณภาพและความสด โดยเฉพาะล็อบสเตอร์ตัวเป็น ๆ หรือ Live Lobster จากน่านน้ำมหาสมุทรแอตแลนติก ส่งตรงความสดมาไว้ที่ล็อบสเตอร์แทงค์บริเวณด้านหน้าร้าน ในบรรยากาศร้านสไตล์ชิค ๆ ของย่านสุขุมวิทที่ตอบโจทย์ Lobster & Seafood Destination สไตล์การตกแต่งของ “Red Lobster” สาขานี้ จึงมิกซ์แอนด์แมทช์อย่างลงตัวในรูปแบบ “Lobster Café” เน้นโทนสีดำ แดง ที่ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งคาเฟ่เท่ ๆ แต่ก็ยังคงได้ฟีลทะเลด้วยการแทรกสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ในดีเทลต่าง ๆ โดยเฉพาะลวดลายของเกลียวคลื่น และเพิ่มความพิเศษด้วยพื้นที่ Balcony อีกฝั่ง ที่ลูกค้าสามารถนั่งชมวิวมุมสูงได้ฟีลลิ่งชิล ๆ ไปอีกแบบ

Live Lobster & Variety Seafood

สำหรับ Live Lobster ที่ร้านคัดสรรมาเฉพาะล็อบสเตอร์สายพันธุ์เมน (Maine Lobster) เนื่องจากตัวโต ก้ามใหญ่ เนื้อแน่น เด้ง หวานมากที่สุดในหมู่ล็อบสเตอร์ เพราะมาจากน่านน้ำมหาสมุทรแอตแลนติคซึ่งเป็นกระแสน้ำเย็น จึงไม่ซึมซับความเค็มของเกลือในทะเล เนื้อล็อบสเตอร์จึงหวานกว่าล็อบสเตอร์ที่อาศัยอยู่ในน้ำอุ่น

เริ่มต้นที่จานหลัก แนะนำ เมนูซิกเนเจอร์ Double Live Maine Lobster (ดับเบิ้ล ไลฟ์ เมน ล็อบสเตอร์) ไลฟ์ล็อบสเตอร์แพ็คคู่ตัวโต เนื้อเด้ง หวาน เสิร์ฟมาสองรูปแบบ สองรสชาติในจานเดียว ตัวแรกเป็นแบบ Roasted ได้รสชาติล็อบสเตอร์แท้ ๆ ส่วนอีกตัวเป็นแบบอบชีสและเนย รสเข้มข้น หอมชีส Gruyère (กรุยแยร์) ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นชีสที่อร่อยที่สุดชนิดหนึ่ง ทานคู่กับบัตเตอร์ซอส หรือน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดสูตรพิเศษของร้าน (ราคา 3,200 บาท *ราคาอาจปรับเปลี่ยนตามฤดูกาล) ส่วนใครที่ชอบล็อบสเตอร์โรลสไตล์อเมริกัน แนะนำ Lobster Tail Lobster Roll (ล็อบสเตอร์เทล ล็อบสเตอร์โรล) อัดแน่นด้วย

เนื้อล็อบสเตอร์คลุกเคล้ากับมายองเนสและเซเลอรี กับขนมปัง Brioche (บริยอช) เนื้อนุ่มฟูสูตรฝรั่งเศส ปิ้งจนกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมเฟรนซ์ฟรายส์ ส่วนแฟนล็อบสเตอร์ที่เลิฟเส้น ต้องไม่พลาด Spaghetti Black n’ Pink with Mixed Seafood and Lobster (สปาเก็ตตี้ แบล็ก แอนด์ พิงก์ วิท มิกซ์ ซีฟู้ด แอนด์ ล็อบสเตอร์) สปาเก็ตตี้เส้นหมึกดำพิงก์ซอสซีฟู้ดรวมและล็อบสเตอร์ เส้นสปาเก็ตตี้แบบอันเดนเต้ คลุกเคล้าด้วยพิงก์ซอสรสชาติเปรี้ยว ๆ ซึ่งเป็นซอสพาสต้ามะเขือเทศสูตรโฮมเมดผสมกับครีม ทานคู่กับ ล็อบสเตอร์และซีฟู้ดรวม คาลามารี หอยแมลงภู่ กุ้ง (ราคา 1,250 บาท) ต่อด้วยเมนูที่สายชีสไม่ควรพลาด Cheesy Lobster & Shrimp Dip (ชีสซี่ ล็อบสเตอร์ แอนด์ ชริมพ์ ดิป) ชีสดิปสูตรลับที่มีส่วนผสมของชิ้นล็อบสเตอร์และกุ้ง เสิร์ฟพร้อมตอร์ติยาชิปส์ (แผ่นข้าวโพดกรอบ) (ราคา 420 บาท) และอีกหนึ่ง ซิกเนเจอร์ที่ใครกินแล้วก็ต้องขอซ้ำ มันฝรั่งอบล็อบสเตอร์และชีส Lobster n’ Cheese Twice Baked Potato (ล็อบสเตอร์ แอนด์ ชีส ทไวซ์ เบค โปเตโต้) มันอบร้อน ๆ ผสมเนื้อล็อบสเตอร์ กุ้ง และเบคอน อร่อยกลมกล่อมเข้ากันกับมอสซาเรลลาชีส ยืดนุ่มหนึบ เสิร์ฟพร้อมกับซาวครีม (ราคา 195 บาท) ปิดท้ายที่ สลัดกุ้งอะโวคาโดและผลไม้ Citrus Shrimp & Avocado Salad (ซีตรัส ชริมพ์ แอนด์ อะโวคาโด สลัด) มีทั้งผักสลัด กุ้ง อะโวคาโด สตรอว์เบอร์รี่ ส้ม และน้ำสลัดแพสชั่นฟรุต วาฟู ทานแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น (ราคา 460 บาท)

Dessert & Drink

หลังจากอิ่มหนำกับสารพัดของคาวแล้ว ชาร์จพลังปิดท้ายมื้ออาหารด้วยขนมหวานสไตล์คาเฟ่ อาทิ “Mixed Berry French Toast” (มิกซ์ เบอร์รี่ เฟรนช์ โทสต์) เฟรนช์โทสต์เนื้อนุ่ม ทานคู่กับมิกซ์เบอร์รี่และไอศกรีมมะม่วง (ราคา 280 บาท) ส่วนใครที่ชอบช็อกโกแลต แนะนำ “Chocolate Banoffee French Toast” (ช็อกโกแลต บานอฟฟี่ เฟรนช์ โทสต์) โทสต์ช็อกโกแลต ทานคู่กับกล้วยหอมเคลือบ คาราเมลและไอศกรีมช็อกโกแลต (ราคา 250 บาท) ส่วนสายดริ้งค์สามารถเอนจอยกับเครื่องดื่มหลากหลายประเภท ทั้ง ชา กาแฟ ม็อกเทลไม่มีแอลกอฮอล์ เช่น Atlantic Blue (แอตแลนติก บลู) (ราคา 220 บาท), Fizzy Strawberry Lemonade (ฟิซซี่ สตรอว์เบอร์รี่ เลมอนเนด) (ราคา 200 บาท) เป็นต้น

Special Promotion

โปรโมชั่นพิเศษฉลองเปิดร้าน ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 รับฟรี! เมนู Cheddar Bay Biscuit 1 ชิ้นต่อท่าน เมื่อมาทานที่สาขา THE EMSPHERE และสำหรับลูกค้าที่กด Like Facebook page: Red Lobster Thailand พร้อมถ่ายภาพเมนูสุดโปรด หรือโมเม้นท์สุดประทับใจที่ร้าน แล้วแชร์ลงเฟซบุ๊ค ใส่แฮชแท็ก #redlobsteremsphere รับฟรี! Cheddar Bay Biscuit 4 ชิ้น! บรรจุในกล่อง Takeaway

แวะมาเช็คอินความอร่อย ที่ “Red Lobster” สาขา 2 ที่ศูนย์การค้า THE EMSPHERE ชั้น GM (ชั้นทางเชื่อมรถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์) เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 065-512-9741 หรือ Line Official Account: @redlobster_th และติดตามข้อมูลข่าวสารและโปรโมชั่นต่างๆ ได้ที่ Facebook Page: Red Lobster Thailand