เส็บผลักดันนโยบาย “Festival Economy” สร้าง “เศรษฐกิจ” เมืองด้วยงานเทศกาล กระจายรายได้ทั่วประเทศ
ทีเส็บผลักดันนโยบาย “Festival Economy”
สร้าง “เศรษฐกิจ” เมืองด้วยงานเทศกาล กระจายรายได้ทั่วประเทศ
กรุงเทพฯ – สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ ผลักดันนโยบาย “Festival Economy” เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการสร้างมรดกใหม่ (New Legacy) ทางเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม และมุ่งสร้างความยั่งยืนให้กับเมืองและชุมชนผ่านการจัดงานเทศกาล พร้อมเปิดตัว “Thailand Power Up” แคมเปญช่วยผู้จัดงานเทศกาลให้สามารถเดินหน้าจัดงานต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นและรักษาฐานแฟนของงานเทศกาลทั้งในและต่างประเทศที่ยังเดินทางเข้ามาร่วมงานไม่ได้ นอกจากนี้ ทีเส็บยังทำงานร่วมกับสมาคมและเครือข่ายภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับและสร้างงานเทศกาลของไทยสู่ระดับนานาชาติ ซึ่งเป็นการดำเนินการทั้งในแง่ของการผลักดันและกระตุ้นผู้จัดงานเทศกาลอย่างเป็นระบบครบวงจร
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ กล่าวถึงนโยบายการส่งเสริมธุรกิจการจัดงานเทศกาลในประเทศไทยว่า ทีเส็บเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาและสร้างมรดกทางเศรษฐกิจด้วยงานเทศกาล (Festival Economy) ให้กับเมืองและชุมชน โดยเน้นการใช้อัตลักษณ์ของเมือง (City DNA) ในการออกแบบกิจกรรมสำหรับงานเทศกาล (Experience Design) ก่อให้เกิด
ระบบนิเวศใหม่ (New Ecosystem) ในการพัฒนาเศรษฐกิจของเมืองผ่านการจัดงานเทศกาล ซึ่งจะเป็นเครื่องมือดึงดูดกลุ่มนักเดินทางคุณภาพที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่เน้นการเดินทางเพื่อแสวงหาประสบการณ์รูปแบบใหม่ พร้อมกันนี้ นโยบาย Festival Economy ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างเศรษฐกิจ กระจายรายได้ กระจายความเจริญ ควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพของเมือง พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน และการพัฒนาบุคลากรภายในพื้นที่ จึงก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างรอบด้านและยั่งยืน
นอกจากนี้ ทีเส็บให้ความสำคัญและตั้งเป้าผลักดันนโยบาย Festival Economy เป็นกลยุทธ์สำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนให้เมืองและชุมชนจับมือกับเครือข่ายสมาคมฯ ที่มีความเชี่ยวชาญ 5 สมาคมหลัก คือ สมาคมการค้าส่งเสริมการจัดมหกรรมและเทศกาลนานาชาติไทย (TIEFA), สมาคมการค้าผู้จัดงานกีฬามวลชนไทย (TMPSA), สมาคมเครือข่ายผู้สร้างสรรค์วิชาชีพสื่อบันเทิงไทย (TECNA), สมาคมการค้าส่งเสริมอุตสาหกรรมศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (CAPT) และสมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน (EMA) ในการร่วมออกแบบและสร้างงานเทศกาลที่เหมาะสมให้กับเมือง และพัฒนาต่อยอดจนเกิดเป็น “หนึ่งเมือง หนึ่งสิทธิบัตรงานเทศกาลนานาชาติ (1 City 1 Licensed Event)” ภายใน 5 ปี เพื่อเพิ่มมูลค่า ยกระดับ และส่งออกงานเทศกาลที่เกิดจากสิ่งที่เป็นอัตลักษณ์ของเมืองให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยมีเป้าหมายในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่งเสริมให้เมืองเป็นจุดหมายปลายทางในการจัดงานเทศกาล และการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
ในการนี้ สสปน. และสมาคมการค้าส่งเสริมการจัดมหกรรมและเทศกาลนานาชาติไทย หรือ TIEFA ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือจำนวน 2 ฉบับ เพื่อขับเคลื่อนการสร้างเศรษฐกิจด้วยงานเทศกาลในพื้นที่นำร่อง คือ
1) การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการออกแบบงานเทศกาลและพัฒนาเมืองผ่านการจัดงานเทศกาล ร่วมกับจังหวัดเพชรบุรีโดยนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เพื่อผลักดันและยกระดับงานเทศกาลในจังหวัดเพชรบุรี และส่งเสริมการกระจายรายได้ สร้างเศรษฐกิจในจังหวัดผ่านการจัดงานเทศกาล (Festival Economy) อย่างยั่งยืน
2) การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสร้างงานเทศกาลเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของย่านราชประสงค์ ร่วมกับสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ เพื่อส่งเสริมและยกระดับการจัดงานเทศกาลในย่านราชประสงค์ เพื่อสร้างผลเชิงบวกทางเศรษฐกิจ สังคม (Economic and Social Impact) ในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพมหานคร
นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี กล่าวถึงการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการออกแบบงานเทศกาลและพัฒนาเมืองผ่านการจัดงานเทศกาล ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในพื้นที่เพชรบุรี ที่มีความตื่นตัวอย่างยิ่งที่จะร่วมมือกันในการออกแบบงานเทศกาลที่มาจากอัตลักษณ์ของเมือง ผ่านไอเดียที่สร้างสรรค์ของสมาคมการค้าส่งเสริมการจัดมหกรรมและเทศกาลนานาชาติไทย (TIEFA) เพื่อที่จะทำให้เทศกาลที่จะเกิดขึ้นต่อไปของเพชรบุรีเป็นงานระดับนานาชาติที่เราชาวเพชรบุรีภาคภูมิใจ
นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ (RSTA) กล่าวถึงการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการสร้างงานเทศกาลเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจของย่านราชประสงค์ ซึ่งเสมือนเป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่างย่านราชประสงค์และ สสปน. อย่างเป็นรูปธรรม ร่วมกับสมาคมการค้าส่งเสริมการจัดมหกรรมและเทศกาลนานาชาติไทย (TIEFA) โดยมีเป้าหมาย คือ ยกระดับ “ย่าน” ที่เป็นสถานที่จัดงานไปสู่ “ย่าน” ที่มีคอนเทนต์เฉพาะ เพื่อต่อยอดทางเศรษฐกิจต่อไป
นางนิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการสายงานธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ แนะนำแคมเปญ Thailand Power Up ของฝ่ายพัฒนาการจัดงานเมกะอีเวนท์และเทศกาลนานาชาติประจำปีงบประมาณ 2564 ซึ่งเป็นแคมเปญส่งเสริมและฟื้นฟูการจัดงานเทศกาลหลังสถานการณ์โควิด 19 ภายใต้แนวคิดหลัก คือ ฟื้นฟูอุตสาหกรรม (Recovery), รักษาฐาน Fanbase ของงาน (Engaged), เสริมสร้าง
ความแข็งแกร่งของพันธมิตรทั้งไทยและต่างชาติ (Empower) และพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน (Boost Up) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับงานในประเทศ มุ่งพัฒนาและรักษาฐานแฟนทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้เทคโนโลยีและแฟลตฟอร์มออนไลน์ยกระดับประสบการณ์ของผู้ร่วมงาน
แคมเปญ Thailand Power Up ประกอบด้วย 4 โปรโมชั่น ได้แก่ 1) Thailand Event Line Up ยกระดับและพัฒนางานเทศกาล และเตรียมความพร้อมเมื่อสถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติ 2) Fav. Your Fan. สนับสนุนการจัดงานผ่านออนไลน์แฟลตฟอร์มในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด 19 3) N2N Tech. Savy สนับสนุนให้ผู้จัดงานเทศกาลสามารถรักษาฐาน Fanbase ทั้งในประเทศและต่างประเทศผ่านการใช้เทคโนโลยีและแฟลตฟอร์มออนไลน์ และ 4) International Mega Event and Market Penetration เพื่อติดอาวุธและส่งเสริมให้ผู้จัดงานเทศกาลของประเทศไทยสร้างเครือข่ายกับเจ้าของลิขสิทธิ์งานต่างประเทศเพื่อเตรียมพร้อมดึงงานกลับเข้ามาในประเทศไทย
สุดท้ายนี้ ทีเส็บในฐานะหน่วยงานที่มีพันธกิจหลักในการส่งเสริมและพัฒนางานเทศกาล เพื่อขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เน้นย้ำการบูรณาการความร่วมมือกับสมาคมต่าง ๆ และภาคเอกชน รวมถึงส่งเสริมให้ผู้จัดงานเทศกาลสร้างเครือข่ายร่วมกับผู้จัดงานเทศกาลในต่างประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมในการยกระดับงานและดึงงานที่น่าสนใจเข้ามาในประเทศไทย โดยยึดหลัก “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง (Leave no one behind)”